วันที่ 12 กันยายน 2568 ที่หอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ปฏิบัติศาสนกิจแทนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาพระปริยัตินิเทศก์และผู้เกี่ยวข้อง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายอำเภอพุทธมณฑล ข้าราชการเจ้าหน้าที่และคณะสงฆ์ ร่วมพิธี
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ศูนย์พระปริยัตินิเทศก์แห่งคณะสงฆ์ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงได้จัดโครงการประชุมสัมมนาพระปริยัตินิเทศก์และผู้เกี่ยวข้องประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในระหว่างวันที่ 12 – 13 กันยายน2568 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บุคลากรศูนย์พระปริยัตินิเทศก์แห่งคณะสงฆ์ และบุคลากรทางการศึกษาพระปริยัติธรรม รับทราบนโยบายการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม ภายใต้พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2562 นโยบายการศึกษาของคณะสงฆ์ และของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อถือปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพพระปริยัตินิเทศก์ ในการนิเทศ ติดตามประเมินผล การสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ และเพื่อเป็นการระดมความเห็นในการวางแผนและพัฒนาการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยได้อาราธนาผู้บริหารศูนย์พระปริยัตินิเทศก์แห่งคณะสงฆ์ พระปริยัตินิเทศก์ทั่วประเทศ ผู้แทนส่วนงานการศึกษาพระปริยัติธรรม และเชิญผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมสัมมนา จำนวนทั้งสิ้น 800 รูป/คน
สำหรับ พระปริยัตินิเทศก์ เป็นบุคลากรทางการศึกษาของคณะสงฆ์ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีหน้าที่หลัก คือการนิเทศการศึกษาพระปริยัติธรรม ส่งเสริมสนับสนุน และเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการศึกษาพระปริยัติธรรมแก่สถานศึกษาพระปริยัติธรรม พระปริยัตินิเทศก์ จึงมีความเกี่ยวข้องในฐานะผู้มีหน้าที่นิเทศติดตาม ประเมินผล การจัดการการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้ง 3 แผนก กล่าวคือ แผนกธรรม แผนกบาลี และแผนกสามัญศึกษา ดังนั้นหากพระปริยัตินิเทศปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะช่วยส่งเสริมสถานศึกษาพระปริยัติธรรม ในการจัดการศึกษา และส่งเสริมพระภิกษุ สามเณร ให้มีความรู้ ความสามารถ และมีความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ดำรงตนเป็นศาสนทายาทสืบไป
นอกจากพระปริยัตินิเทศ ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแล้ว ยังมีบุคลากรในส่วนงานการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้ง 3 แผนก และรวมถึงบุคลากรสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่สนองงานและส่งเสริมการศึกษาของคณะสงฆ์ กล่าวได้ว่าการจัดการการศึกษาพระปริยัติธรรม ล้วนอาศัยความช่วยเหลือเกื้อกูล สนับสนุนกัน ระหว่างส่วนงานการศึกษาพระปริยัติธรรม และส่วนราชการ
……………
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว